<< หน้าแรก  |  ประวัติ |    การจัดหน่วย  |  ผู้บังคับหน่วย อากาศยาน |  นิรภัยการบิน  |  Links  >>

 

บินเหมือนที่เคยบินกับผมนะ

 


ทุกครั้งที่มีเสียงเครื่องบินบินผ่าน ผมมักจะเงยหน้าขึ้นมอง และอดคิดไม่ได้ว่าเจ้านกเหล็กตัวนั้น มันบินอยู่ในอากาศได้อย่างไร ทำไมเราจะได้บินอย่างนั้นบ้างคงสนุกดี ไปโน่นมานี่ได้อย่างรวดเร็ว

ความรู้สึกนี้ฝังอยู่ในจิตใจผมตลอดเวลา จนกระทั่งผมจบออกเป็นนายทหารไปประจำอยู่กองพันทหารปืนใหญ่ที่ลพบุรี ทำหน้าที่นายทหารตรวจการณ์หน้า ในปีนั้นทางศูนย์การทหารปืนใหญ่ ประกาศรับสมัครผู้ที่จะเข้าเรียนบินจำนวน ๑๐๐ นาย ผมมีโอกาสไปสมัครสอบกับเขาด้วย มีผู้สมัครสอบจำนวน ๓๐๐ กว่าคน ทางศูนย์ฯส่งไปสอบ และตรวจโรคที่แผนกเวชศาสตร์การบิน ทอ. โรงพยาบาลภูมิพล ฯ หลังจากนั้นผมกลับมาอยู่กองพันได้ ๒-๓ วัน ทางกองพันออกฝึกภาคสนาม ขณะอยู่ในสนามเพื่อนมาบอกว่าผมสอบเข้าบินได้ ผมไม่รู้สึกตื่นเต้นเลย เพราะคิดว่าเพื่อนหลอก คนสมัครตั้ง ๓๐๐ กว่าคน โอกาสที่จะสอบได้มีน้อยมาก ตอนเย็นวันนั้นผมจึงได้เซ็นทราบคำสั่ง ฯ ให้ไปรายงานตัวเข้าเรียนบินที่โรงเรียนการบิน ทอ. จังหวัดนครราชสีมา ผมเก็บของใส่ถึงทะเลออกเดินทางทันที

ที่โรงเรียนการบิน ทอ. ผมได้พบกับเพื่อนทหารบก ๙ คน และเพื่อนทหารอากาศอีก ๓ คน ทุกคนเข้าพักในค่ายพักศิษย์การบินชั้นปฐม เราเริ่มปฏิบัติตามตารางประจำวัน ตั้งแต่ ๐๕๓๐ ถึง ๒๐๓๐ ทุกเช้าหัวหน้าตอนจะเป่านกหวีดรวมแถว หมวดศิษย์ (ครูการบิน)จะพาเราฝึกกายบริหารหรือวิ่งจนถึงเวลา ๐๖๓๐ จากนั้นก็กับค่ายพัก อาบน้ำแต่งตัวในที่นี้ก็คือสวมชุดบิน เสื้อกับกางเกงติดกัน มีซิบรูดด้านหน้าตลอด สีกากีแกมเขียว ใส่หมวกจ๊อกกี้สีเดียวกัน เข้าแถวเดินเข้าห้องเตรียมบิน ผู้อำนวยการฝึกบิน จะเข้ามาชี้แจงจัดครูแบ่งสายการฝึกบิน กำหนดแผนการฝึกบินให้เป็นไปแนวทางเดียวกัน พร้อมทั้งตอบข้อสงสัยต่าง ๆที่พวกเรายังไม่เข้าใจ ชั่วโมงแรกครูประจำสายเรียกพวกเรามาชี้แจง ในสายผมมีศิษย์การบิน ๒ คน ครูอธิบายถึงวิธีการฝึกบิน การตรวจเครื่อง การติดเครื่อง การดับเครื่อง การขับเครื่องที่พื้น พวกเราตั้งใจฟังกันอย่างเต็มที่ ทั้ง ๆที่ยังไม่รู้อะไรเลยจากนั้น ครูก็พาเราไปที่เครื่อง เพื่อทำความคุ้นเคยกับเครื่อง เครื่องที่เราใช้ฝึกเป็นเครื่องบินของประเทศแคนนาดา แบบปีกต่ำเครื่องยนต์เดียว เป็นเครื่องบินแบบชิปมั้งค์ (CRIP MUNK) ซึ่งเป็นชื่อของสัตว์ชนิดหนึ่งรูปร่างคล้ายกระรอกแต่ตัวเล็กกว่า ขุดรูอยู่ตามพื้นดิน ครูแนะนำการตรวจเครื่อง การขึ้นเครื่อง การปรับที่นั่ง การใช้เข็มขัดนิรภัย การห้ามล้อ

ชั่วโมงแรกผมทำหน้าที่ตรวจเครื่อง ให้เพื่อนในสายอ่านคู่มือ ผมตรวจเครื่องเวียนรอบจากซ้ายไปขวาตามลำดับ ข้อที่เพื่อนอ่าน เมื่อเสร็จเรียบร้อย รายงานให้ครูทราบ ท่านสั่งให้ผมขึ้นเครื่องบินก่อน ผมปีนขึ้นไปนั่งที่นั่งหน้า ปรับที่นั่งตามที่ได้รับการสอนมา รัดตัวรัดไหล่เสร็จ เห็นครูปีนขึ้นมานั่งที่นั่งหลัง จากนั้นท่านก็สั่งให้ติดเครื่องยนต์ ผมปฏิบัติตามคู่มือ เปิดสวิตซ์ถังน้ำมัน ใช้ถังซึ่งบรรจุน้ำมันมาก ดันคับปรับก๊าซไปข้างหน้าสุด ลดคันเร่งลงมา และตั้งไว้ที่ตำแหน่ง ติดเครื่อง กดสวิตซ์ ติดเครื่องยนต์ ใบพัดเริ่มหมุน ผมเชื่อมสวิตซ์รวม เสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่ม ครูพูดมาจากข้างหลังว่า เครื่องยนต์ติดแล้ว ทำอะไรบ้าง ผมหยิบคู่มือออกมาเปิดดู แล้วเหน็บไว้เหนือเข่าซ้าย ปฏิบัติตามการติดเครื่องยนต์ ข้อแรกจนถึงข้อสุดท้าย จับตามไปนะ เสียงดังมาจากข้างหลังอีก มือซ้ายผมจับที่คันเร่ง มือขวาขับที่คันบังคับ คันเร่งของเครื่องบินไม่เหมือนรถยนต์ ของรถยนต์อยู่ที่เท้า ของเครื่องบินเป็นปุ่มบังคับ ติดอยู่ทางด้านซ้ายของตัวเครื่อง ซึ่งมือซ้ายจะจับพอดี มือขวาจับคันบังคับ เท้าซ้ายและเท้าขวาของผมวางบนกระเดื่องหางเสือเลี้ยว

ครูขับเครื่องไปตามทางขับจนถึงจุดลองเครื่อง เสียงครูพุด “ลองเครื่องทำอะไรบ้าง” ผมเหลือบมองดูคู่มือ ที่เหน็บไว้เหนือหัวเข่า แล้วเริ่มทำ เปลี่ยนคันเปิดปิดถังน้ำมันไปที่ถังเต็ม ถังนำมันเครื่องบิน ที่ผมฝึกอยู่มี ๒ ถัง ที่โคนปีกทั้งสองข้าง จะต้องเฉลี่ยการใช้น้ำมันทั้งสองถังเท่า ๆ กัน เพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องเอียง ตรวจดูคันปรับก๊าซอยู่ในตำแหน่งหน้าสุด ตั้งคันปรับเครื่องช่วยแรงยกที่โคนปีกทั้งสองข้าง ให้อยู่ในตำแหน่งวิ่งขึ้น ตั้งแผ่นปรับหางเสือขึ้นลงในตำแหน่งวิ่งขึ้น ตั้งรอบเครื่องยนต์ที่ ๑,๖๐๐ รอบต่อนาที และตรวจสอบการทำลานของแมกนีโตทั้งเรือนซ้าย และเรือนขวา โดยตรวจสอบการทำงานทีละเรือนผลต่างของทั้งสองเรือนไม่เกิน ๕๐ รอบต่อนาที

เราฝึกบินกันครั้งละ ๑ ชั่วโมง ใกล้จะครบชั่วโมง ครูบอกให้ผมนำเครื่อง กลับสนาม ผมมองไปรอบ ๆ ตัวไม่เห็นสนาม มีแต่เมฆสีขาวเต็มไปหมด นึกไม่ออกว่าวิ่งขึ้นมาจากทิศทางไหน ตอนวิ่งขึ้นพระอาทิตย์อยู่ทางซ้ายมือ แล้วเลี้ยวขวาออกนอกวงจร กลับสนามบินต้องเข้าหาดวงอาทิตย์ ผมเลี้ยวหันหัวเครื่องเข้าหาดวงอาทิตย์ เสียงครูชมมาจากข้างหลังมีความสังเกตดีมาก บินตรง บินระดับไปก่อน ผมเอาข้อศอกวางบนเข่า มือประคองคันบังคับเบาที่สุด แทบจะกลั้นหายใจ เสียงครูพูดต่อ หัวสูงไปหน่อย ผมนึกถึงตอนปรับเก้าอี้ นั่งรีบปรับ ตัวเราใหญ่คงนั่งบังข้างหน้า ครูมองไม่ค่อยเห็น ผมก้มตัวลงเล็กน้อย พยายามขยับหัวไห้ต่ำลง เสียงครูดังขึ้นอีก ครั้ง หัวเครื่องไม่ใช่หัวคน ผมเกือบจะหัวเราะออกมาดัง ๆ ความเครียดทำให้จิตใจเรากังวลไปทุกสิ่งทุกอย่าง ผมเน้นคันบังคับไปข้างหน้าลดหัวเครื่องลง เพราะความสูงกำลังเพิ่มขึ้น เครื่องเข้าต่อวงจรครูนำเครื่องลงสนาม เพื่อนในสายวิ่งมารับเครื่อง ผมส่งเพื่อนขึ้นบินต่อ และกลับมานั่งอ่านคู่มือที่ห้องเตรียมบิน

ชั่วโมงบินของผมเพิ่มขึ้นจนถึงขั้นการตรวจสอบฝีมือบิน ก่อนการปล่อยเดี่ยวกองฝึกแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบฝึมือบินของศิษย์การบิน แต่ผมยังไม่มั่นใจเลยว่าจะบินเดียวได้

 


<<
  หน้าต่อไป  >>

 

Hosted by www.Geocities.ws

1