เนื้อหา (IP Address) |
ความหมาย (IP Address) |
IPv4 (IPv4 Addressing) |
การแทนค่าไอพีแอดเดรสแบบเลขฐานสองและฐานสิบ |
การจัดสรรไอพีแอดเดรสแบบใช้คลาส |
การแบ่งเครือข่ายย่อย (Subnetting) |
ลำดับชั้น 3 ระดับ (Three Levels of Hierarchy) |
ซับเน็ตมาสก์ (Subnet Mask) |
|
|
|
|
@เครดิตโค๊ดใช้ตกแต่ง webpage |
การจัดสรรไอพีแอดเดรสแบบใช้คลาส (Classful Addressing)
เป็นแนวคิดในการแบ่งคลาสออกเป็น 5 ชนิดโดยแต่ละคลาสที่ออกแบบมาจะรองรับความต้องการที่แตกต่างกันแล้วแต่องค์กรปัจจุบัน คลาส A และคลาส B ถูกนำมาใช้จนเต็มแล้ว เหลือแต่ คลาส C ที่ยังมีการใช้งานอยู่ คลาส D ถูกสงวนไว้สำหรับเป็นมัลติคลาสต์แอดเดรส คลาส E ถูกสงวนไว้ใช้งานในอนาคตจำนวนเครือข่าย
สามารถคำนวณได้จาก 2NetID-2 จำนวนโฮสต์ในแต่ละเครือข่าย สามารถคำนวณได้จาก 2HostID-2
Class A
คลาส A จะมีส่วนของหมายเลขเครือข่าย (NetID) ขนาด 7 บิต
- บิตแรกจะเป็นค่าคงที่ คือ 0 เพื่อใช้แทนว่าเป็นคลาส A
- จำนวนเครือข่ายที่สามารถมีได้ เท่ากับ 126 (27-2) เครือข่าย
- ออคเทตแรกที่มีค่าเป็น 0 (00000000) และ 127 (01111111) จะถูกสงวนไว้
- แต่ละเครือข่ายสามารถมีจำนวนโฮสต์ได้ถึง (224-2) โฮสต์
- สามารถนำไปใช้งานกับองค์กรหรือหน่วยงานที่มีขนาดใหญ่ ที่จำเป็นต้องมี
โฮสต์จำนวนมาก
สามารถคำนวณหาแอดเดรสเริ่มต้นกับแอดเดรสสุดท้ายได้ดังนี้
Class B
คลาส B จะมีส่วนของหมายเลขเครือข่าย (NetID) ขนาด 14 บิต
- 2 บิตแรกจะเป็นค่าคงที่ คือ 10 เพื่อใช้แทนว่าเป็นคลาส B
- จำนวนเครือข่ายที่สามารถมีได้ เท่ากับ (214-2) เครือข่าย
- ออคเทตแรกที่มีค่าเป็น 128 (10000000) และ 191 (10111111) จะถูกสงวนไว้
- แต่ละเครือข่ายสามารถมีจำนวนโฮสต์ได้ถึง (216-2) โฮสต์
- เหมาะสมกับการนำไปใช้งานกับองค์กรขนาดกลาง เช่น สถาบันการศึกษา
หน่วยงานของรัฐ หรือเอกชน
สามารถคำนวณหาแอดเดรสเริ่มต้นกับแอดเดรสสุดท้ายได้ดังนี้
Class C
คลาส C จะมีส่วนของหมายเลขเครือข่าย (NetID) ขนาด 21 บิต
- 3 บิตแรกจะเป็นค่าคงที่ คือ 110 เพื่อใช้แทนว่าเป็นคลาส C
- จำนวนเครือข่ายที่สามารถมีได้ เท่ากับ (221-2) เครือข่าย
- ออคเทตแรกที่มีค่าเป็น 192 (11000000) และ 223 (11011111) จะถูกสงวนไว้
- แต่ละเครือข่ายสามารถมีจำนวนโฮสต์ได้ 254 (28-2) โฮสต์
- เหมาะสมกับการนำไปใช้งานกับองค์กรขนาดเล็ก
สามารถคำนวณหาแอดเดรสเริ่มต้นกับแอดเดรสสุดท้ายได้ดังนี้
Class D
คลาส D จะไม่มีการกำหนดหมายเลขเครือข่าย และถูกสงวนไว้สำหรับเป็นมัลติคาสต์
- 4 บิตในออคเทตแรกจะเป็นค่าคงที่ คือ 1110 เพื่อใช้แทนว่าเป็นคลาส D
- แอดเดรสเริ่มต้น คือ 224 (11100000) และแอดเดรสสุดท้าย คือ 239 (11101111) http://www.mx7.com/i/b42/y35i3I.jpg
Class E
คลาส E จะไม่ถูกนำมาใช้ โดยจะถูกสงวนไว้ใช้งานในอนาคต
- 4 บิตในออคเทตแรกจะเป็นค่าคงที่ คือ 1111 เพื่อใช้แทนว่าเป็นคลาส E
- แอดเดรสเริ่มต้น คือ 240 (11110000) และแอดเดรสสุดท้าย คือ 255 (11111111)
แสดงช่วงความกว้างของไอพีแอดเดรส
สรุปจำนวนเครือข่าย และจำนวนโฮสต์ของไอพีแอดเดรสคลาส A, B และ C
ความแตกต่างระหว่างไอพีแอดเดรสคลาส A, B และ C สามารถารุปตามเงื่อนไขพื้นฐานได้ดังนี้
Class A : มีจำนวนเครือข่ายน้อย แต่ละเครือข่ายมีโฮสต์เชื่อมต่อจำนวนมาก
Class B : มีจำนวนเครือข่ายปานกลาง แต่ละเครือข่ายมีจำนวนโฮสต์เชื่อมต่อปานกลาง
Class C : มีจำนวนเครือข่ายมาก แต่ละเครือข่ายมีจำนวนโฮสต์เชื่อมต่อน้อย
เนื่องจากไอพีแอดเดรสถูกแบ่งเป็น 2 ส่วนประกอบกัน คือ หมายเลขเครือข่าย และหมายเลขโฮสต์ ทำให้ง่ายต่อการออกแบบระบบ โดยในการส่งแพ็กเก็ตข้อมูลบนเครือข่าย เร้าเตอร์จะพิจารณาเลือกเส้นทางเฉพาะส่วนของหมายเลขเครือข่ายเท่านั้น โดย ( โฮสต์หรืออุปกรณ์ที่มีหมายเลขเครือข่ายชุดเดียวกันจะอยู่บนเครือข่ายเดียวกันหรือเรียกว่าอยู่บนเน็ตเวิร์กเดียวกัน ) ส่วนหน้าที่ของการส่งแพ็กเก็ตบนเครือข่ายเดียวกัน จะเป็นหน้าที่ของชั้นสื่อสารดาต้าลิงค์
|