หลักความเชื่อ ๑๐
หลักนี้มีที่มาใน กาลามสูตร และสูตรอื่นๆ ที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้สำหรับให้ทุกคน มีความเชื่อในเหตุผลของตนเอง ในเมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นว่า สิ่งที่มีผู้นำมากล่าวหรือสั่งสอนนั้น ตนควรจะเชื่อถือเพียงไร หรือไม่ มีผู้ไปทูลถามว่า "เขาได้รับความ ลำบากใจในการที่สมณะพราหมณ์พวกหนึ่ง ก็สอนไปอย่างหนึ่ง สมณะพราหมณ์พวกอื่น ก็สอนไปอย่างอื่น หลายพวกหลายอย่างด้วยกัน จนไม่รู้ว่า จะเชื่อใครดี " ในที่สุด พระองค์ ตรัสหลักสำหรับ ทำความเชื่อแก่คนพวกนั้น มีใจความว่า

๑. มา อนุสฺสาเวน                                      อย่าเชื่อโดยฟังตามกันมา
๒. มา ปรมฺปราย                                        อย่าเชื่อโดยเหตุสักว่าตามสืบๆ กันมา
๓. มา อิติ กิราย                                          อย่าเชื่อโดยตื่นข่าว
๔. มา ปิฎกสัมฺปทาเนน                              อย่าเชื่อโดยอ้างปิฎก(คำสอน)
๕. มา ตกฺกเหตุ                                           อย่าเชื่อโดยนึกเดาเอาเอง
๖. มา นยเหตุ                                              อย่าเชื่อโดยคาดคะเน
๗. มา อาการปริวิตกฺเกน                             อย่าเชื่อโดยการตรึกตรองตามอาการ
๘. มา ทิฎฐินิชฺฌานกฺขนกฺขนฺติยา                อย่าเชื่อโดยเห็นว่าถูกตามลัทธิของตน
๙. มา ภพฺพรูปตาย                                      อย่าเชื่อโดยเห็นว่า ผู้พูดควรเชื่อได้
๑๐. มา สมโฌ โน ครุ                                    อย่าเชื่อโดยถือว่า สมณะนี้เป็นครูของเรา

แต่ให้เชื่อการพิจารณาของตนเอง ว่า คำสอนเหล่านั้น เมื่อประพฤติ กระทำตาม ไปแล้ว จะมีผลเกิดขึ้นอย่างไร ถ้ามีผลเกิดขึ้นเป็นการทำตนเองและผู้อื่นให้เป็นทุกข์ เดือดร้อน ก็เป็นคำสอน ที่ไม่ควรปฏิบัติตาม ถ้าไม่เป็นไปเพื่อทำตนเอง และ ผู้อื่นให้เดือดร้อน แต่เป็นไปเพื่อ ความสุข ความเจริญ ย่อมเป็นคำสอน ที่ควรทำตาม ตัวอย่างเช่น เมื่อมีการพูดถึง ราคะ โทสะ โมหะ ว่าเป็นสิ่ง ควรละหรือไม่ ผู้ฟังจะต้องพิจารณา ให้เห็นชัด ด้วยตนเอง

 


[ HOME ]             [ CONTENTS ]    

Hosted by www.Geocities.ws

1