UFO ที่สงขลา

นักวิทยาศาสตร์มักจะอ้างเหตุผลทางวิทยาศาสตร์อยู่เสมอ ๆว่า จานบินหรืออากาศยานจากนอกโลกอื่นนั้นไม่มีแน่ ๆ พวกนี้ได้รับชัยชนะไปเปลาะหนึ่งเห็นได้จากการเปลี่ยนคำนิยามสิ่งที่เห็นจาก Flying Saucers (จานผี) ไปเป็น Unidentified Flying Objects (สิ่งมีชีวิตที่ไม่อาจระบุได้)

นักวิทยาศาสตร์กลุ่มสถาบัน SETI ไม่เชื่อว่ามีจานบินมาป้วนเปี้ยนเหนือโลกของเราทั้งในอดีตและปัจจุบัน แต่เชื่อว่าอาจมีสิ่งมีชีวิตอยู่ในจักรวาล SETI (The Search for Extraterrestrial Intelligence) พยายามศึกษาวิจัยเรื่องจักรวาล มีโครงการเด่น ๆ หลายโครงการ โครงการที่ค่อนข้างจะมีชื่อเสียงมากคือ Profect PHOENIX เป็นโครงการส่งสัญญาณวิทยุไปยังจักรวาล และดักฟังสัญญาณวิทยุจากจักรวาล โดยหมายมั่นปั้นมือว่าคงมีสักวันที่จะรับสัญญาณวิทยุจากต่างดาวได้ นั่นหมายถึงว่ามีสิ่งมีชีวิตที่มีอารยธรรมที่ศิวิไลซ์กว่าเราอยู่ในจักรวาลอันกว้างใหญ่ไพศาลนี้

แต่อีกฝ่ายหนึ่งที่เชื่อว่ามีจานบินมากมายมาบินเหนือโลกของเรามานานแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถหาหลักฐานแบบเจ๋ง ๆ มาแสดงให้ยอมรับกันได้เหตุการณ์จานบินตกที่รอสเวล ในรัฐนิวเม็กซิโก เมื่อปี ค.ศ. 1947 ซึ่งมีคนเชื่อกันมากว่าเป็นเรื่องจริง เป็นตำนานที่จุดพลุความสนใจของผู้คนทั่วโลกต่อ UFO ปัจจุบันมีองค์กรต่าง ๆ ที่ศึกษาเรื่อง UFO อยู่ทั่วโลก ที่เด่น ๆ พอจะยกมาให้เห็นเพื่อนผู้อ่านท่านใดสนใจจะศึกษาก็มี MUFON(The Mutual UFO Network) องค์กรนี้อยู่ในอเมริกา มีเครือข่ายเชื่อมโยงในหลายรัฐรวมทั้งแคนาดา FUFOR (The Fund For Ufo Research) องค์การนี้ตั้งอยู่ในอเมริกาเช่นเดียวกัน เป็นองค์การที่ให้ทุนสนับสนุนสำหรับวิจัยเรื่อง UFO เพียงอย่างเดียวถึงปีละเกือบ 1 พันล้านดอลล่าร์

ผมเกริ่นเร่องนี้ด้วยข้อมูล UFO พอประมาณราวกับว่าผมรู้เรื่องนี้มานานแล้วหรือรู้ค่อนข้างดี แต่เปล่าเลย ผมเพียงแต่อ่านจากหนังสือที่ผมสนใจเท่านั้น ผมซื้อหนังสือ UFO มาตั้งแต่ยี่สิบปีที่แล้ว แต่พูดสั้น ๆ ว่า ผมไม่รู้เรื่อง UFO สักเท่าไหร่ หนังสือเล่มล่าสุดที่ซื้อไว้เพราะมีเนื้อหาเกี่ยวกับ จานบินจะบุกโลก ผมซื้อมาอ่านเพื่อความเพลิดเพลินมากกว่าอื่นใด แต่ด้วยความบังเอิญครับที่ทำให้ผมต้องมาสนใจและค้นห้าข้อมูลเรื่อง UFO ทาง Internet อย่างเอาจริงเอาจังเพราะผมเห็น UFO อย่างบังเอิญ

เรื่องที่ผมจะคุยให้ฟังต่อไปนี้ เป็นเรื่องจริงที่น่าศึกษา เป็นปรากฏการณ์ที่เสมือนคำถามทางวิทยาศาสตร์ต้องหาคำตอบ

ค่ำวันที่ 8 สิงหาคม 2542 ราว ๆ 1 ทุ่ม ผมแหงนหน้าขึ้นไปบนท้องฟ้าด้านทิศตะวันออก เหนือแฟลตที่พักในมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ หาดใหญ่ ปรากฏว่าเห็นดาววิ่งได้ครับ ผมพยายามมองอย่างละเอียดควบคู่ไปกับนึกถึงคำพูดของนักดาราศาสตร์ไทยที่ว่า คนที่เห็นดาวสองดวงหรือดาวเคลื่อนที่นั้นเป็นเพราะเลนส์ตามันเคลื่อน แต่เลนส์ตาผมยังดีแน่นอนเมื่อดูอย่างตั้งใจมันไม่ใช่ดาวครับ แต่เป็นวัตถุบางอย่างมีแสงคล้ายดาวเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง หลังจากเห็นดวงหนึ่งราว 3 นาที ก็เห็นดวงที่สองในบริเวณใกล้เคียงกัน และเห็นดวงที่สามและสี่ในเวลาห่างกันประมาณ 3-4 นาที

ปรากฏการณ์วันนั้น ทำให้ผมตื่นเต้นมาก แต่ผมไม่มีประสบการณ์ที่จะบอกได้ว่ามันคืออะไร ผมเริ่มนึกถึงเรื่อง UFO และตั้งใจจะติดตามมันในวันต่อไป

ในคืนถัดมาปรากฏการณ์ดังกล่าวก็ยังคงเกิดขึ้น ผมเริ่มป่าวประกาศสิ่งที่เห็นและค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับดาวเทียม มีคนสนใจมาชมในวันต่อ ๆ มา จำนวนหนึ่ง ในวันที่ 16 สิงหาคม 2542 ช่อง 9 อสมท. ได้มาบันทึกภาพได้สองดวงและออกอากาศในวันรุ่งขึ้น

ปรากฏการณ์ที่ว่านั้นยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่องทุกคืน (เว้นช่วงพายุฝน) นับแต่วันที่ 8 สิงหาคม 2542 –จนกระทั่งถึงวันนี้ (4 เดือน) หากท้องฟ้าเปิดจะเห็นมากที่สุดคือ 20 ดวง ผมลงทุนซื้อกล้องส่องทางไกลมาอันหนึ่ง มันใช้การได้ดีพอประมาณสิ่งที่ผมเห็นในเวลา 4 เดือนเศษ ผมมั่นใจว่าเป็นอากาศยาน ช่วงหลัง ๆ ผมจึงนับสิ่งที่ผมเห็นเป็นจำนวนลำ ไม่ใช่ดวง แต่มันจะเป็นอากาศยานของใครมาฟังข้อวิเคราะห์ของผมดู จากการศึกษาลักษณะ พฤติกรรม การเคลื่อนไหวหรือการบินของเจ้า UFO ที่ว่านี้

รูปลักษณ์ เจ้า UFO ที่ว่า มีรูปร่างคล้ายดาว เพื่อนผมบางคนบอกว่าเหมือนหิ่งห้อย เวลาใช้กล้องส่องทางไกลดูมันจะเป็นรูปกลมมีแสงรอบ คล้าย ๆ กับเวลาเราดูเครื่องบินจากกล้องส่องทางไกลด จะต่างจากเครื่องบินครงที่รูปวงกลมของเครื่องบินจะกะพริบตลอดเวลา และเป็นแสงออกสีส้ม แต่แสงของ UFO จะนิ่งและมีความเข้มของแสงมากว่าเป็นแสงสีขาว

ความสูง UFO บินอยู่ในระดับสูงมาก เวลาเครื่องบินระหว่างประเทศ (Silk Air ของสิงค์โปร) บินผ่าน ณ เวลาเดียวกัน UFO จะสูงกว่าไม่น้อยกว่าหนึ่งเท่าตัวทีเดียว แต่น่าจะอยู่ในชั้นบรรยากาศโลก อย่างไรก็ดี มีอยู่หลายครั้งที่ UFO บินในระดับต่ำ คือเหนือกว่าเครื่องบินโดยกาสเล็กน้อย จะเห็นขนาดของ UFO ใหญ่ขึ้น

ความเร็ว ความเร็วจะสูงมาก เมื่อเทียบกับเครื่องบินโดยสารแล้วจะเร็วกว่าไม่น้อยกว่า 2 เท่าตัว แต่ในหลาย ๆ ครั้ง UFO บางลำจะบินช้าเหมือนกัน
การเปล่งแสง UFO บางลำจะเปล่งแสงเหมือนสปอรตไลท์สว่างจ้าขนาดใหญ่กว่าดาวพฤหัสบดีหรือดาวศุกร์เวลาสุกสว่างเต็มที่ ปรากฏการณ์นี้เห็นได้ประมาณ 10 ครั้ง ดูเหมือนคล้าย ๆ กับการสตาร์ทพลังงาน

พฤติกรรมทางการบิน UFO บินไม่เกาะหมู่เหมือนเครื่องบินรบ แต่จะโผล่มาให้เห็นในพื้นที่เฉพาะครั้งละ 1-2 ลำ และจะมุ่งหน้าไปในทิศทางและตำแหน่งไม่ซ้ำกันในแต่ละคืน หาก Focus สายตาไปในพื้นที่เฉพาะ จะเห็นว่ามันโผล่ออกมา โดยไม่ได้บินมาจากพื้นที่อื่น ๆ และมีหลาย ๆ ครั้งที่ UFO บินสวนกัน

ขอมูลจากศูนย์วิทยุการบินมีเพียงเครื่องบินของสายการบินไทยและสายการบิน Silk Air 2 ลำเท่านั้นที่บินผ่านบริเวณดังกล่าว ในเวลา 1-2 ทุ่ม ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่ UFO ปรากฏ และข้อมูลจากทหารอากาศและทหารบกในพื้นที่ ไม่มีการปฏิบัติ การทหารใด ๆ ในท้องฟ้าตั้งแต่วันที่ 8 สิงหาคม 2542 ในเวลา 1-2 ทุ่ม ถึงปัจจุบัน

ผมลองแหย่เรื่องนี้กับพวกฝรั่งที่สนใจเรื่อง UFO โดยส่ง Email ไปยัง Citizens against UFO secrecy ซึ่งเป็นองค์กร ตั้งอยู่ที่แคลิฟอร์เนีย ปรากฏว่าได้ผลครับ ภายในสามวัน ผมได้รับ Email จากอเมริกา เยอรมัน กรีซ เกือบ 20 ฉบับ มีอยู่คนหนึ่งบอกว่าถ้าคุณอยากรู้ว่าทำไมสิ่งที่คุณเห็นบินเหมือนกับลง

มาจากอวกาศ ให้คุณไปอ่านเรื่อง “Silent Invasion( The Shocking Discoveries of a UFO Research ) by Ellen Crystal .Ph.D”

ว่ากันไปแล้ว ฝรั่งสนใจเรื่อง UFO นี้ค่อนข้างมาก โดยเฉพาะในอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส และประเทศในแถบสแกนดิเนเวีย ผมว่าน่าจะมีปัจจัยหลัก ๆ อยู่สองประการ ที่ทำให้คนในประเทศเหล่านี้สนใจ คือ ประการแรก การเป็นสังคมวิทยาศาสตร์ เรื่องอย่างนี้เป็นเรื่องที่ชวนให้สงสัยและหาคำตอบ ประการที่สอง ประเทศเหล่านี้ตกอยู่ภายใต้สงครามเย็นกับโซเวียตมานาน เพราะฉะนั้น ผู้คนจะคำนึงถึงความปลอดภัย โดยเฉพาะ อย่างยิ่ง ภัยทางอากาศจากเครื่องบิน ดาวเทียมจารกรรม จรวดนิวเคลียร์อะไรทำนองนี้จากอีกฝ่ายหนึ่ง

สำหรับในย่านเอเซีย มักไม่ค่อยมีรายงานการเห็น UFO ยกเว้นจีน รัสเซีย ผมว่าเป็นเพราะคนเอเซียไม่มองท้องฟ้า ไม่สนใจดาราศาสตร์ ในขณะที่ในออสเตรเลีย มีรายงานการเห็น UFO แทบทุกวัน ล่าสุด เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2542 มีอุกาบาตตกที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือรัฐนิวเซาท์เวลส์ บริเวณเขื่อนเก็บน้ำ ปรากฏว่าชาวออสเตรเลีย ให้ความสนใจกันมาก บางกลุ่มเชื่อว่าเป็นวัตถุจากยานของมนุษย์ต่างดาว ผู้สนใจเข้า Internet ไปดูที่ National Space Center (http://www.over.to/spce/) มีทฤษฏีอยู่ทฤษฏีหนึ่ง ของการเดินทางในอวกาศ อธิบายว่าถ้ามีสิ่งมีชีวิตจากดวงดาวอื่น เดินทางโดยใช้ความเร็วเท่ากับแสงยังต้องใช้เวลาเป็นสิบเป็นร้อยปีกว่าจะไปถึงจุดหมาย แต่มันมีวิธีอีกวิธีหนึ่ง คือการเดินทางแบบทะลุมิติโดยผ่านทางอุโมงค์อวกาศด้วยวิธีที่ว่านี้ จะสามารถ เดินทางระหว่างดวงดาวที่แสนไกลเพียงชั่วอึดใจเดียวเท่านั้นเอง พวก UFO Logist เชื่อในทฤษฏีนี้กันมาก

ทฤษฏีนี้อาจใช้ในการศึกษาปรากฏการณ์ UFO ที่สงขลาได้ เพราะเกิดขึ้นใน Area เฉพาะอากาศยานที่ไม่ได้บินจากฟากฟ้า แต่เกิดขึ้นในทิศตะวันออกมุมเงย 60-90 องศา แล้วบินออกจากจุดดั่งกล่าวไปในทิศทางต่าง ๆ ยกเว้นทิศตะวันตก

ปรากฏการณ์ลักษณะนี้ คล้ายคลึงกับปรากฏการณ์ในเมืองฮัสดาเลน ในประเทศนอร์เวย์ ซึ่งทั้งฝ่ายทหารและองค์กร UFO ได้ปักหลักเฝ้าศึกษาเป็มแรมปี แต่ผลที่สุดก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่ามันคืออะไร

แม้ว่าผมจะไม่สามารถสรุปได้ว่ามันคืออะไร แต่สิ่งหรือวัตถุที่ตัดออกไปได้อย่างแน่นอนคืออุกกาบาต ดาวเทียม เครื่องบินโดยสาร ระหว่างประเทศ และเครื่องบินรบของกองทัพไทย

ทุกวันนี้เรื่องของ UFO ยังเป็นเรื่องลึกลับและน่าศึกษาติดตามสำหรับคนบางกลุ่ม แต่เป็นเรื่องเหลวไหลสิ้นดี สำหรับคนอีกกลุ่ม อย่างไรก็ตาม ท่านผู้อ่านลองสังเกตท้องฟ้าในบางวันดูบ้าง แล้วก็อาจจะได้เห็น อะไรบางอย่างที่คาดไม่ถึงก็ได้นะครับ

คลิ๊กแบนเนอร์ให้ผมบ้างนะครับ เพื่อน ๆ

Hosted by www.Geocities.ws

1