เรื่อง : คดีฆาตรกรรมปริศนา จบในตอน ( จะรวมอยู่ในชุด Nawapol Summer Project ] เรื่องมันเริ่มขึ้นเมื่อ กลางดึก ของ คืนวันที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2543 เวลา เที่ยงคืนเศษๆ ....... “ อ๊าก “ เสียงสุดท้ายของเหยื่อรายแรก “ โอ๊ย “ เสียงสุดท้ายของเหยื่อรายที่สอง “ อุ๊ย “ เสียงสุดท้ายของเหยื่อรายที่สาม คดีฆาตรกรรม 3 ศพ ปริศนา สุดแสนมึนงง ก็เริ่มขึ้น ณ. บัดนั้น เช้า วันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2543 ผม นาย นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ ซึ่งเป็นนักสืบที่ได้รับสมญานาม จากนักอ่านการ์ตูนว่า “ โคนัน เมืองไทย “ หน้าตาของผมก็ ใส่แว่น ผมดำ ไว้ผมทรงอะไรก็ไม่รู้ เพราะ เวลาไปตัดผมที่ร้าน ยังไม่ทันบอกเลยว่าทรงอะไร ช่างตัดผมมันก็ซะแล้ว ผิวขาว ผมถูกเรียกจาก สารวัตร ให้ไปสืบสวนคดีฆาตรกรรมปริศนา ผมก็มาถึงที่เกิดเหตุ เป็นบ้านของอภิมหาเศรษฐี บ้านหลังใหญ่โตมาก เป็นบ้านเดี่ยว 20 ชั้น สีขาว รอบๆบ้านเต็มไปด้วยต้นไม้ใบหญ้าเขียวชอุ่ม ผมไม่รอช้า เดินเข้าไปในบ้านเพื่อคุยกับสารวัตร “ เป็นไงบ้างครับ สารวัตร “ ผมถาม “ อยู่ที่ห้องใต้ดิน น่ะไปดูสิ “ สารวัตรตอบเสียงสั่น เหมือน คนกำลังจะร้องไห้ “ ครับ ครับ สารวัตร รีบไปเข้าห้องน้ำ แล้วร้องไห้ให้เรียบร้อยเถอะครับ “ สารวัตรคนนี้เห็นคดีโหดๆ ทีไร ต้องร้องไห้ทุกที ผมก็เลยเดินลงไปที่ห้องใต้ดินของบ้านหลังนี้ สิ่งที่ผมเห็นตอนนี้ก็คือ ศพ 3 ศพ ถูกแขวนคอ ..... ในห้องมี มีตำรวจ 2 คน ยืนเฝ้าอยู่ พร้อมกับ คนรับใช้ในบ้านหลังนี้ 3 คน ซึ่งประจำอยู่ชั้น 1 ของบ้าน ศพที่ 1 เป็นศพของ นาย ฮกกี่ เป็นพ่อของนายด่าง หัวล้าน มีเคราแพะ บริเวณลำตัว ถูกปักด้วยไม้เสียบลูกชิ้น ( ของ ร้าน ก๋าว การลูกชิ้น ซึ่งขาย 100 ลูก 99 บาท มีทั้งลูกชิ้นปลา ลูกชิ้นหมู ลูกชิ้นกุ้ง ร้านอยู่แถวๆ รามคำแหง ทางร้านมีทั้ง ป้ายเปิปพิสดาร , เชลล์ชวนชิม , ดาวเขียว เปิดบริการเวลา 10 โมง ถึง 4 ทุ่ม โปรโมชั่นตอนนี้มี ซื้อ 100 ลูก แถม น้ำแข็งเปล่า 1 แก้ว ) ทั่วร่างกาย เลือดอาบ ศพที่ 2 เป็นศพของ นาง เชาเชา เป็นเป็นแม่ของนายด่าง ผมยาวหงอก ใส่เสื้อสายเดี่ยว ( ยี่ห้อ เวอร์ซาเช่ แต่ซื้อมาจาก ตลาดนัดแถวบ้าน ราคา 199 บาท ) บริเวณลำตัว มีรอยฟกช้ำทั่วร่างกาย สันนิษฐานว่า อาจจะเกิดจากการถูกกระทืบ ศพที่ 3 เป็นศพของ นาย ด่าง เป็นลูกของนาย ฮกกี่ และ นาง เชาเชา ไว้ผมทรงสกินเฮด มือของเขาถือไส้ดินสอกดปักคาอกอยู่ตัวเอง เลือดท่วม ผมสอบถามกับคนรับใช้ในบ้านที่สนิทกับนายฮกกี่ ก็ได้ความว่า นายฮกกี่ มีศัตรูมากมาย เพราะ เขาเป็นเจ้าพ่อของย่านลาดพร้าว แต่คู่อริตัวสำคัญคือ นาย ธีรวุฒิ หรือ ต๊ะ โชคชัย4 ซึ่งเป็นเจ้าพ่อย่านโชคชัย 4 เป็นที่บาดหมางกันมาก เพราะ แย่งพื้นที่เก็บค่าคุ้มครองชาวบ้าน ก็เป็นได้ที่ ต๊ะ จะส่งลูกน้องมาเก็บ แต่.... ห้องใต้ดินนี้ เป็นห้องสำหรับเก็บของเก่าของตระกูลนี้ ผู้เข้าห้องนี้ได้มีคนเดียวคือ นายฮกกี่ เพราะเขาเป็นคนเดียวที่ถือกุญแจเพื่อเข้าห้องนี้ ทางเข้าทางเดียวของห้องนี้ก็มีอยู่ทางเดียวคือทางประตู จากชั้น 1 คนรับใช้ก็บอกว่า ไม่มีของชิ้นใดในห้องนี้หายไป อย่างนี้ก็ไม่ใช่การโจรกรรม แต่ เป็นการฆาตรกรรมแน่ ตำรวจสอบสวนคนในบ้านทุกคนแล้ว ไม่มีคนใด ที่เป็นผู้ต้องสงสัย ผมเหลือบไปเห็นรูปของผู้หญิงสาวคนนึง จึงถามคนในบ้านว่าเป็นใคร ปรากฎว่า เป็นภรรยาของนายด่าง ชื่อ นาง กรด ซึ่งทำงานอยู่ต่างจังหวัด “ มีอะไรกันเหรอคะ “ เสียงนั้นเป็นเสียงของ นางกรด หญิงสาว ลูกครึ่ง ไทย เอธิโอเปีย ผิวคล้ำ ผมเป็นสีรุ้ง ( มี 7 สี ใน 1 หัว ) ผมเริ่มสงสัยในตัวผู้หญิงคนนี้ เพราะ เธอผู้นี้เป็นคนเดียวที่จะได้มรดกทั้งหมด ผมบอกเรื่องราวทั้งหมดกับ เธอ เธอร้องไห้ ผมเลยปล่อยให้เธอ ทำใจสักครู่ แล้วถาม “ ขอโทษนะครับ เมื่อคืนวาน คุณอยู่ที่ไหนครับ “ “ นี่ คุณหาว่าฉันฆ่า คุณพ่อ คุณแม่ กับ ด่าง เหรอคะ “ “ เปล่าๆ ครับ ผมแค่ถามดูน่ะครับ “ “ คุณคงคิดว่า ฉันต้องการฆ่า เพื่อหวังมรดกคุณพ่อใช่มั๊ย ฉันจะพิสูจน์ให้คุณดู “ กรด ควักปืนจากกระเป๋าสะพายของเธอ ขึ้นมาแล้ว “ ปัง ! “ กรดยิงตัวเอง เสียชีวิตทันที..... คดีนี้มืดมนหนักเข้าไปอีก ตำรวจ ตรวจหา ร่องรอยของคนร้ายก็ไม่พบ ตรวจหาลายนิ้วมือของสิ่งของที่ใช้ฆาตรกรรมไม่มีลาย นิ้วมือของใครเลย เป็นปริศนายิ่งนัก “ ไอ้คนเขียนเอ๊ย เขียนดักไว้ทุกทางเลย อย่างนี้ใครมันจะไปสืบได้วะ ขี้เกียจสืบแล้วโว้ย “ จบ เต๋อ