รถไฟฟ้า 2 ขบวนดังกล่าวเป็นประเภทรถด่วนซึ่งผลิตเแล้วเสร็จจากโรงงานของกลุ่มระบบขนส่งของบริษัท ซีเมนส์ในเมืองเครเฟลด์ ประเทศเยอรมนี ตั้งแต่เดือนมีนาคมและเมษายนที่ผ่านมา โดยผ่านขั้นตอนของการทดลองวิ่งและการทดสอบระบบที่ศูนย์ทดสอบ‘เวกแบรก์-วิลเด้นราท’ของซีเมนส์ก่อนที่จะถูกขนย้ายโดยรถไฟไปยังท่าเรือเบร์เมอร์ฮาเว่นเพื่อส่งต่อมายังประเทศไทย

ส่วนที่เหลืออีก 7 ขบวนซึ่งประกอบด้วยรถด่วน (Express) 2 ขบวนและรถที่วิ่งในเมือง (City Line) 5 ขบวนนั้นจะมาถึงประเทศไทยในเดือนมกราคมปีหน้าตามกำหนด โดยการวิ่งทดสอบระบบครั้งแรกในกรุงเทพฯ นั้นคาดว่าน่าจะเริ่มดำเนินการได้ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2551

รถไฟฟ้าประเภทรถด่วนซึ่งมีทั้งสิ้น 4 ขบวนๆ ละ 4 ตู้ มีความยาวรถ 81.36 เมตรนั้นจะวิ่งในระยะทาง 25.7 กิโลเมตรด้วยความเร็ว 160 กิโลเมตร/ชั่วโมงจากสถานีมักกะสันถึงสนามบินสุวรรณภูมิในเวลาเพียง 15 นาที โดยไม่มีการจอดระหว่างสถานี ซึ่งผู้โดยสารสามารถทำการเช็คอินขึ้นเครื่องก่อนถึงสนามบินได้ที่สถานีมักกะสัน โดยมีตู้เก็บสัมภาระและกระเป๋าเดินทางไว้รองรับบนขบวนรถไฟด้วย ส่วนรถไฟฟ้าประเภทวิ่งในเมืองมีทั้งสิ้น 5 ขบวนๆ ละ 3 ตู้ ความยาวรถ 61.02 เมตร จะให้บริการผู้โดยสารระหว่างสถานีพญาไทกับสนามบินสุวรรณภูมิ โดยจะจอดรับส่งผู้โดยสารระหว่างสถานีต่างๆ 6 สถานี และใช้เวลาเดินทางทั้งสิ้น 28 นาที
รถไฟฟ้าเชื่อมสนามบินสุวรรณภูมิทุกขบวนล้วนมีระบบความปลอดภัยสูงและได้สร้างมาตรฐานใหม่ด้านระบบความปลอดภัยสูงสุด ซึ่งผู้โดยสารจะได้รับความสะดวกสบายที่มากขึ้นกว่าเดิมจากการเดินทางไปยังสนามบิน

“ซีเมนส์ให้ความมั่นใจในเรื่องของการนำเสนอคุณภาพและการให้บริการต่างๆ ตามมาตรฐานที่สูง ซึ่งเมื่อผนวกเข้ากับคำมั่นที่เราให้กับลูกค้าในเรื่องของการบริการ ดูแล และช่วยเหลือในระยะยาวทั้งในเรื่องของการดำเนินการโครงการและการบำรุงรักษาจะสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้โดยสารถึงการได้รับความพึงพอใจต่อการให้บริการและเห็นถึงประโยชน์ของโครงการรถ
ไฟฟ้าเชื่อมสนามบินนี้ตั้งแต่วันแรกที่เปิดให้บริการ” ม.ร. ราล์ฟ ฮาสเซลบัคเคอร์ รองประธานอาวุโสและหัวหน้ากลุ่มระบบขนส่ง บริษัท ซีเมนส์ จำกัด ประเทศไทย กล่าว

คุณบัญชา คงนคร (ที่3 จากซ้าย) รักษาการผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทยและทีมงานร่วมเป็นสักขีพยานในการขนส่งรถไฟฟ้าเชื่อมสนามบินสุวรรณภูมิออกจากท่าเรือเบร์เมอร์ฮาเว่นในประเทศเยอรมนีออกสู่ประเทศไทยโดยมี ม.ร. โวลฟ์กัง รูพริช ผู้จัดการโครงการแอร์พอร์ตลิ้งค์ ของซีเมนส์ให้การต้อนรับ  ภาพเล็ก : คุณบัญชา คงนคร นั่งบนที่นั่งคนขับในรถไฟ

โครงการรถไฟฟ้าเชื่อมสนามบินสุวรรณภูมิหรือแอร์พอร์ตลิ้งค์ เป็นโครงการที่ 3 ของกลุ่มระบบขนส่งของซีเมนส์ในเขตกรุงเทพมหานคร หลังจากประสบความสำเร็จในโครงการแรกอย่างรถไฟฟ้าบีทีเอสและรถไฟใต้ดินตามลำดับ

“เราภาคภูมิใจเป็นอย่างมากที่สามารถส่งมอบรถไฟฟ้าคุณภาพและมาตรฐานสูงของเราได้ตรงตามกำหนดแก่การรถไฟแห่งประเทศไทยซึ่งเป็นลูกค้าผู้ทรงเกียรติ ซึ่งแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความเป็นมืออาชีพและความเชี่ยวชาญในเรื่องของรถไฟฟ้าและระบบรางที่ทันสมัยอย่างแท้จริงของเรา” ม.ร. ฮาสเซลบัคเคอร์ กล่าวเพิ่มเติม
ในส่วนของการเป็นพันธมิตรกิจการค้าร่วมในโครงการแอร์พอร์ตลิ้งค์ ซีเมนส์ยังรับผิดชอบในส่วนของระบบอาณัติสัญญาณ การสื่อสาร การเก็บค่าโดยสารอัตโนมัติ ระบบความปลอดภัยในอุโมงค์ ป้ายประกาศบนชานชาลา ระบบแจกจ่ายกระแสไฟฟ้า ระบบราง ตลอดจนการซ่อมบำรุงอุปกรณ์ต่างๆ และระบบการจัดการกระเป๋าและสัมภาระรวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ สำหรับการเช็คอิน 



Photo: Express Train’s front car hauled onto the vessel

กลุ่มระบบขนส่งของซีเมนส์
เป็นหนึ่งในผู้นำระดับโลกด้านระบบขนส่งแบบราง ในฐานะผู้จัดหาและบูรณาการระบบอย่างครบวงจร กลุ่มระบบขนส่งของซีเมนส์ได้ผสานความรู้ความเชี่ยวชาญทั้งหมดที่มีอยู่ในส่วนงานต่างๆ ทั้งส่วนงานระบบอัตโนมัติและพลังงาน ระบบและตัวรถไฟฟ้า ระบบเทิร์นคีย์ ตลอดจนการบริการครบวงจร เพื่อนำเสนออย่างครอบคลุม นับตั้งแต่ระบบควบคุม และระบบอาณัติสัญญาณ การจัดหากระแสไฟฟ้าเพื่อป้อนระบบรางไปจนถึงตัวรถไฟฟ้าเพื่อการขนส่งมวลชน และรถไฟเพื่อการขนส่งทั้งระยะใกล้และไกล นอกจากนี้ ยังมีประสบการณ์มากมายด้านการบริหารโครงการและแนวคิดการให้บริการรูปแบบต่างๆ ที่มุ่งเน้นตอบสนองอนาคตอีกด้วย โดยในปีงบประมาณ 2549 (สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน) กลุ่มระบบขนส่งซึ่งมีพนักงานทั่วโลก รวม 18,800 คน สามารถสร้างยอดขายได้ถึง 4.5 พันล้านยูโร สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบขนส่งของซีเมนส์ ได้ที่ www.siemens.com/transportation