แอลกอฮอล์กับการบิน โดย
พันเอก บุญมา ต๊ะวิชัย
<< อ่านเรื่องต่อไป
>>
วารสาร FLIGHT
FLAX ฉบับประจำ 23
พฤศจิกายน 2526
ซึ่งจัดพิมพ์เผยแพร่
โดยศูนย์นิรภัย ทบ. สหรัฐ
ฟอร์ตรัดเกอร์
รัฐอลาบามา รายงานว่า
เมื่อเร็ว ๆ นี้
เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันอุบัติเหตุทางอากาศ
ได้จัดทำภาพยนต์สารคดีเรื่องหนึ่ง
คือ เรื่อง แอลกอฮอล์,นักบินและอุบัติเหตุปัญหาว่าด้วยท่าบิน
( ALCOHOL, AVIATION
,AND ACCIDENTS A PROBLEM OF ATTITUDE )
เป็นภาพยนต์หมายเลข TF. ( VT. )
46 6296 ใช้เวลาในการฉาย 23
นาที 13 วินาที
การถ่ายทำภาพยนต์เรื่องนี้
กระทำโดยอาศัยประวัติหลักฐาน
ของศูนย์นิรภัย ทบ.
และเน้นให้เห็นถึงผลของการเมาค้าง
( ALCOHOL HANGOVER )
ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่การบินหย่อนประสิทธิภาพทางจิตและร่างกาย
อันเป็นผลมาจากความบกพร่องของการทำงานที่ซับซ้อน
เช่น
การตอบสนองของขบวนการไซโคมอเตอร์
ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการบิน
นักบิน ทบ.
อเมริกันส่วนมากเชื่อในกฎ
12 ชั่วโมง จากขวดถึงทร็อดเติล
( 12 hour Bottle to Throttle rule )
ซึ่งหมายความว่า
เมื่อดื่มแก้วหลังสุดแล้วนับไปอีก
12 ชั่วโมงจะสามารถทำการบินได้อย่างปลอดภัย
แต่ จากการวิเคราะห์
ของผู้เชี่ยวชาญซึ่งปรากฏในภาพยนต์นี้ชี้ว่า
เวลา 12 ชั่วโมง
ไม่เป็นการเพียงพอที่จะทำให้ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์หมดไปจากร่างกายของมนุษย์
และแน่นอนที่สุดย่อมไม่เพียงพอในการที่จะขจัดอาการ
แฮงโอเวอร์
ให้หมดไปได้ด้วย
ด้วยเหตุผลนี้
ความเชื่อที่มีต่อกฎ 12
ชั่วโมง
จึงเป็นการเข้าใจผิดอย่างมหันต์
เพราะจากผลของการศึกษาวิจัย
พบว่า การที่จะขจัดเชื้อ
แอลกอฮอล์ 1 ออนซ์
ออกจากระบบของร่างกาย
ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3
ชั่วโมง นักบินจึงควรเลิกเชื่อหลักเกณฑ์หยุดดื่ม
12 ชั่วโมง
ก่อนบินเสียทีและหันมาเชื่อว่า
การพักผ่อนเพื่อให้หายจากอาการเมาค้างย่อมใช้เวลานานกว่าแน่นอน
เพราะกฎนี้ตั้งไว้สำหรับการดื่มจุ๊บจิ๊บ
เพื่อการสังคมเท่านั้น
ไม่ใช่การดื่ม เป็นขวด ๆ
จน หัก หรือ ฟิวส์ขาด
เมื่อได้ตระหนักถึงข้อเท็จจริงดังกล่าวข้างต้นแล้ว
ผู้เชี่ยวชาญด้านนิรภัยการบินจึงได้เสนอแนะว่า
ถ้าดื่มเหล้าหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
1 แก้ว ให้บวกเวลาอีก 1
ชั่วโมงเข้ากับ 12 ชั่วโมง
ยกตัวอย่าง เช่น ถ้าดื่ม 4
แก้ว ก็ต้องรอนาน 16
ชั่วโมง จึงจะขึ้นบินได้
เป็นต้น
ตอนหนึ่งของภาพยนต์นี้
เป็นฉากเกี่ยวกับการบินของนักบินคนหนึ่ง
ซึ่งบินในระยะต่ำ
แต่ใช้ความเร็วสูง
ผู้บังคับกองพันซึ่งนั่งอยู่ในที่นั่งของนักบินผู้ช่วย
แทนที่จะแก้ปัญหาหรือเข้าบังคับอากาศยานเสียเอง
กลับปล่อยให้บินจนเกิดอุบัติเหตุ
ผลการสอบสวนซึ่งมีแพทย์เวชศาสตร์การบินร่วมด้วย
ปรากฏว่า
ในคืนก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุนั้น
ผบ.พัน
ไม่เพียงแต่จะปล่อยให้ผู้ใต้บังคับบัญชาจัดงานเลี้ยงซึ่งมีการดื่มอย่างแหลกลาญเท่านั้น
แต่ตัวเองยังได้เข้าร่วม
เสวนาด้วยทั้ง ๆ
ที่รู้ว่า
วันรุ่งขึ้นมีภารกิจบิน
อุบัติเหตุครั้งนี้
เป็นส่วนหนึ่งเกิดจากอาการ
แฮงโอเวอร์ Flight flax เสนอว่า
ภาพยนต์เรื่องนี้มีประโยชน์มาก
ผบ.หน่วยบิน ทบ.
และนายทหารนิรภัยการบิน
ควรจะได้ขวนขวาย
หามาฉายให้นักบินและเจ้าหน้าที่การบินของตนดูให้จงได้
ที่มาข้อมูล
:ข่าวสารนิรภัยและซ่อมบำรุงอากาศยาน ศูนย์การบินทหารบก ฉบับที่
2 เดือน กุมภาพันธุ์ 2527 |