LAN ( Local Area Network )

LAN : การเชื่อมต่ออุปกรณ์เข้าด้วยกัน ซึ่งเป็นระบบเล็ก ๆ แล้ว Share ข้อมูลในบริเวณไม่ไกล เช่น ในห้อง , ในโรงเรียน , ในมหาวิทยาลัย ฯลฯ ระบบ LAN จะมี Level อยู่ 3 Level ที่นำไปใช้องค์กรต่าง ๆ

Level 1 : ใช้กับพวก Mainfram หรือ Super Computer ซึ่ง LAN ที่เป็น Backbone ที่ High Speed สูง

Level 2 : เป็น LAN ที่เป็น Backbone ที่ High Speed สูง เช่นกัน แต่ จะต่ำกว่า Level 1

Level 3 : ใช้กับพวก เครื่อง Workstation/Pc Network

ใน OSI Model ที่ Data Link แบ่งการทำงานในส่วนนี้ ได้ 2 ชนิด คือ

1. LLC : จะเกี่ยวข้องกับ Leyer บน ๆ ลงมา จะใช้ลักษณะมองแบบ Logical แบบ LLC มี 2 Function คือ

1.1 บรรจุ end - user portion คือ บรรจุข้อมูลของ Frame ต่าง ๆ ไว้

1.2 บรรจุ Logical Address , Control Data และ Information 2. MAC : จะมีความเกี่ยวข้องกับอุปกรณ์ต่าง ๆ มากกว่า - การ์ด LAN แต่ละตัวจะมี Address มองแต่ละตัวโดยไม่ซ้ำกัน - ใน MAC มีค่า Flag Control ฯลฯ - Address ที่อยู่ใน MAC จะเป็นชนิด Physical Address ถ้าถามว่า ทำไมถึงต้องมี LLC และ MAC มาเกี่ยวข้องกับการทำงานของระบบ LAN ตอบ : ก็เพราะว่า LLC และ MAC จะช่วยในการแปลงรหัสให้เครื่องเข้าใจและสามารถทำการ Link ข้อมูลได้ Ethernet เป็นระบบ Protocol ชนิดหนึ่ง โดยมี CSMA/CD เป็นตัวตรวจสอบการชนกันของสัญญาณ และจะ Support muj 10 Mbps ประกอบไปด้วย 1. 10Base5 ใช้ NIC ที่มี Port AUI DB - 15 เชื่อมต่อเข้ากับระบบ

2. 10Base2 ใช้ BNC-T Connector และ ใช้ T - Connector เชื่อมต่อมากว่า 2 เครื่อง

3. 10Base-T ใช้ RJ-45 Connector เชื่อมต่อเข้ากับระบบ Fast Ethernet คล้าย Ethernet แต่ Fast Ethernet จะSupport ถึง 100 Mbps ประกอบไปด้วย

1. 100Base-T4 - ใช้สาย UTP Cat 5 ( 4 pair / 8 เส้น ) - Data rates 100 Mbps แบบ Half Duplex

2. 100Base-X แบ่งได้อีก 2 แบบ คือ - 100Base-TX ใช้สาย UTP Cat 5 , Data Rate 100 Mbps แบบ Full Duplex - 100Base-FX ใช้สาย Fiber Optic แบบ Multimode

FDDI ( Fiber Distributed Data Interface )

- เป็นรูปแบบมาตราที่ใช้กับระบบเครือข่ายอีกแบบ โดยใช้สาย Fiber Optic - Support data rate ที่ 100 Mbps - ใช้ Topology แบบ Ring ( Dual Ring ) โดยมี 2 Ring คือ Primary Ring และ Secondary Ring

back